“รถมือสองซ่อมที่ไหนดี” เป็นคำถามแรกๆ ที่คนจะซื้อรถมือสองสงสัยมาก เพราะมันมีผลต่อการใช้งานในระยะยาว ยิ่งกว่านั้นมันมีผลต่อกระเป๋าสตางค์เป็นอย่างยิ่ง ถ้าซ่อมแล้วมันไม่จบ หลายปัญหาซ่อมศูนย์ก็ใช่ว่าจะจบ หลายปัญหาซ่อมอู่นอกก็ใช่ว่าจะถูก เผลอๆ รวมค่าใช้จ่ายแล้วแพงกว่าซ่อมศูนย์ก็มี แล้วควรจะเลือกการซ่อมแบบไหน ถึงคุ้มค่า ไม่บานปลาย ก่อนอื่นรถมือสองนั้นต้องแบ่งเป็น 2 ประเด็นคือ 1.รถมือสองที่ยังไม่หมดการรับประกัน 2.รถมือสองที่หมดการรับประกันแล้ว
รถมือสองประเภทไหนควรซ่อมศูนย์?
“รถมือสองที่ยังไม่หมดการรับประกันคุณภาพ” ควรจะต้องเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะหมดการรับประกัน เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ต่างๆ ที่ควรจะได้รับไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเคลมอะไหล่หรือชิ้นส่วน รถมือสองในปัจจุบันเรื่องของ “การรับประกันคุณภาพตัวรถ”นั้นจะติดไปกับตัวรถ ไม่ว่าจะเปลี่ยนมือไปกี่มือถ้าระยะเวลาการรับประกันยังไม่หมดตามเงื่อนไข เช่น 3 ปี 100,000 กม. หรือ 5 ปี 150,000 กม. ถ้ายังไม่ครบระยะการประกันคุณภาพก็ยังคงอยู่ หลายคนเข้าใจผิดคิดว่ารถมือสองพอเปลี่ยนเจ้าของการรับประกันต่างๆ จะสิ้นสุดลง นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิดดังนั้นถ้าจะซื้อรถมือสองที่ยังอยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน ควรตรวจเช็ค Book Service ให้ถี่ถ้วน หรือ นำเลขตัวถังเช็คกับศูนย์บริการว่ารถคันนั้นยังเหลือระยะทางหรือระยะเวลาเท่าไหร่ตรงกับระยะทางที่หน้าปัดหรือไม่
รถมือสองแบบไหนซ่อม“ศูนย์ทางเลือก” หรือ“อู่นอก” ได้
“รถมือสองที่หมดประกันคุณภาพแล้ว” สามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์ต่อก็ได้ หรือไปอู่นอกก็ได้สำหรับรถกลุ่มนี้ต้องแยกเป็นประเด็นๆไปเนื่องจากบางอย่างทำอู่นอกได้ แต่บางอย่างก็ควรเข้าศูนย์บริการเพราะมีผลเรื่องของค่าใช้จ่ายหลังจากการซ่อมกรณีที่ซ่อมแล้วไม่จบ หลายครั้งเมื่อรวมค่าแรงค่าอะไหล่แล้วแทบไม่ต่างจากศูนย์บริการเลย เดี๋ยวจะขยายความว่าเพราะอะไร
การแบ่งประเภทของศูนย์บริการ
– ศูนย์บริการโดยตรงของรถแต่ละยี่ห้อ หลายคนคิดว่าการซ่อมที่ศูนย์บริการนั้นแพงมาก โดยเฉพาะค่าแรงซึ่งมันก็จริงเพราะมาตรฐานการคิดค่าแรงนั้นคิดเป็นชั่วโมง และคิดค่าแรงต่อจุดไม่มีการคิดเหมาแบบอู่นอก แต่ปัจจุบันนี้บางครั้งอู่นอกคิดราคารวมมาแล้วถูกกว่าศูนย์ไม่มากนัก และทางศูนย์เองก็มักจะมีแคมเปญส่วนลดค่าแรงค่าอะไหล่เสมอๆ ซึ่งเราสามารถให้ศูนย์ประเมินราคาก่อนได้เพื่อนำไปเทียบกับอู่นอก สิ่งสำคัญกว่านั้นที่หาไม่ได้จากอู่นอกในเรื่องปลีกย่อยเช่น การชำระผ่านบัตรเครดิตโดยไม่ชาร์จ หรือ สามารถแบ่งจ่ายแบบ 0% ได้ นั่นทำให้เราสามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น
ศูนย์บริการซ่อมมาตรฐานทางเลือก เป็นศูนย์บริการทางเลือกที่มีทั่วประเทศมีหลายเจ้า ศูนย์บริการกลุ่มนี้มีความน่าเชื่อถือสูงมีอะไหล่รองรับหลายรูปแบบทั้งอะไหล่แท้ อะไหล่ทดแทนที่มีมาตรฐานสูง รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ โดยเฉพาะการเซอร์วิสพวกของเหลว, ช่วงล่าง, เบรก, ยาง, ระบบแอร์, แบตเตอรี่ ฯลฯ ที่ถูกและมั่นใจได้ นอกจากนี้เรื่องการชำระผ่านบัตรเครดิตโดยไม่ชาร์จ หรือ สามารถแบ่งจ่ายแบบ 0% ได้ และมักจะมีโปรโมชั่น 0% มาดึงดูดความสนใจเสมอๆ เรื่องของค่าแรงแทบไม่ต่างจากศูนย์บริการหรือถูกกว่านิดหน่อย แต่ค่าใช้จ่ายโดยรวมส่วนใหญ่จะถูกกว่าศูนย์บริการ
อู่นอก คำว่าอู่นอกคืออู่ที่รับซ่อมทั่วไป เช่น อู่รับซ่อมเครื่องเกียร์, อู่ซ่อมเบรกช่วงล่าง หรือ อู่ซ่อมแอร์โดยตรง อู่กลุ่มนี้จะเป็นการให้บริการต่างจากสองแบบแรกมาก การคิดค่าแรงมีการติดป้ายราคาไว้ว่าการซ่อมแต่ละจุดคิดราคาเท่าไหร่ แต่พอรวมแล้วก็จะลดลงกว่าตัวเลขจริง เช่น จาก 3,200 บาท ก็เหมา 2,800 – 3,000 บาทเป็นต้น
การซ่อมในศูนย์บริการหรืออู่ทั้ง 3 แบบข้างต้น ในรถมือสองที่หมดการรับประกันคุณภาพแล้ว ควรจะต้องศึกษาไว้ให้ดี เพราะการซ่อมบางอย่างควรเข้าศูนย์เพื่อตัดปัญหาระยะยาว บางอย่างก็สามารถใช้ศูนย์บริการทางเลือกทั้งหลาย บางอย่างก็ควรเข้าอู่นอกเพราะบางปัญหาช่างเก่งๆ สามารถแก้ได้โดยที่ศูนย์บริการหรือศูนย์บริการทางเลือกไม่สามารถทำได้