ซื้อง่าย ขายคล่อง ตัวเลือกเยอะ
รถมือสองนับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับรถยนต์ในงบประมาณที่ไม่สูงมากนัก รถมือสองสภาพสวยๆ คุณภาพดีมีให้เลือกมากมายแค่รู้จักเลือกให้เหมาะกับตนเอง ทำไมถึงเป็นรถมือสองยอดนิยมมันก็เป็นผลต่อเนื่องมาตั้งแต่ตอนเปิดตัว ถ้ารถรุ่นนั้นได้รับความนิยมตั้งแต่ออกห้างป้ายแดง ส่วนใหญ่เมื่อถูกเปลี่ยนมือก็ได้รับความนิยมตามมาด้วย ดังคำที่ว่าเล่นรถตลาดซื้อก็ง่ายขายก็คล่อง ลองมาดูว่า 10 อันดับรถยนต์มือสองที่น่าสนใจมีรถรุ่นไหนบ้าง เผื่อว่าอาจจะตรงกับความต้องการของคุณในตอนนี้
1.Mercedes-Benz C 220d ( W206 ) 2020
เป็นรถที่ขายดีอีกหนึ่งรุ่นสำหรับค่ายดาวสามแฉก รถยอดฮิตตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้รหัสตัวถัง C นำหน้า ในบอดี้ W206 ถือว่าเป็นเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีใหม่แพลทฟอร์มที่มีความยาวมากขึ้น ดีไซน์ของตัวรถจึงดูใหญ่โตหรูหรามากกว่าที่เคย มองเผินๆ อาจจะแยกไม่ออกว่านี่คือบอดี้ C-Cless หรือ รุ่นพี่อย่าง E-Class เพราะภาพลักษณ์ใกล้เคียงกันมาก นอกจากดีไซน์ภายนอกที่ดูหราหราสง่างามแล้ว การออกแบบภายในห้องโดยสารก็หรูหราเพียบพร้อมไปด้วยระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน ความกว้างขวางและพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารนั้นสะดวกสบายกว่าที่เคย
จุดเด่นที่ทำให้รถยนต์รุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องเสมอมาคือ เรื่องของสมรรถนะและความประหยัดอันเลื่องชื่อ เครื่องยนต์ดีเซลรหัส OM 654 M แบบ 4 สูบ ความจุ 1,993 cc. Common rail Direct injection มาพร้อมกับ Turbocharged และ Intercooler มีกำลัง 200 แรงม้า / 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตัน-เมตร ตั้งแต่ 1,800-2,800 รอบ/นาที แค่นั้นยังไม่พอยังมีเทคโนโลยี EQ Boost มาช่วยเพิ่มสมรรถนะ ใช้มอเตอร์แบบ 48V มีกำลัง 20 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตัน-เมตร ช่วยเพิ่มสมรรถนะในจังหวะที่ต้องการแรงบิดมากๆ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 9G-Tronic สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 7.3 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 245 กม./ชม.
การตอบสนองของเครื่องยนต์บล็อกนี้นับว่าน่าพอใจมาก มีอัตราเร่งที่ต่อเนื่องนุ่มนวลถ้าค่อยๆ เติมคันเร่งอย่างนุ่มนวลจะได้ทั้งสมรรถนะและความประหยัดเชื้อเพลิง เป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานในทุกรูปแบบทั้งการใช้งานในเมืองและเดินทางไกล การเดินทางไกลๆ ยาวๆ นั้นถ้าใช้คันเร่งอย่างนุ่มนวลตัวเลขความประหยัดระดับ 17-18 กม./ลิตรเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินจริง จึงไม่แปลกเลยที่จะเป็นรุ่นยอดนิยมในอนุกรมของ C-Class
2. Mercedes-AMG GLC 43 4MATEC Coupé 2018
Mercedes-AMG ที่ใครๆ ก็เอื้อมถึง สมรรถนะที่ร้อนแรงแบบเป็นมิตรกับทุกๆ คน SUV สไตล์สปอร์ตสามารถพาคุณออกตัวจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.9 วินาที ตัวรถถูกปรับแต่งเพิ่มเติมความเป็นสปอร์ตและสมรรถนะด้านต่างๆ ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System รับดีไซน์ด้านหน้าและล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตแบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 21 นิ้ว มุมมองด้านหลังให้ความรู้สึกสปอร์ตด้วยชุด AMG Spoiler-lip ปลายท่อไอเสียแบบ 4-pipe look หม้อพักไอเสียเสริมสมรรถนะจาก AMG Sports exhaust system ดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ ทำงานคู่กับคาลิปเปอร์เบรกสีเทาที่มาพร้อมสัญลักษณ์ AMG
กลิ่นอายภายในห้องโดยสารเต็มอารมณ์สปอร์ตโทนสีดำ สลับด้วยทริมสไตล์โครเมี่ยมและลวดลายคาร์บอนไฟเบอร์ เบาะคู่หน้า AMG Sport seat เติมเต็มความเป็นสปอร์ตด้วยการเดินตะเข็บสีแดง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตหุ้มด้วยหนัง nappa คุณภาพสูง ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต กาบบันได สเตนเลส พร้อมสัญลักษณ์ AMG แบบเรืองแสง, ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO รวมถึงไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 3 สี และอุปกรณ์มัลติมีเดียอย่าง MB Audio 20 และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester®
แรงแบบควบคุมได้เชื่องมือมีกำลังสูงสุด 367 แรงม้า จากเครื่องยนต์ V6 สูบ ความจุ 3,000 cc. Bi-Turbo แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 2,500-4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ 9G-TRONIC =ให้การถ่ายทอดกำลังลงสู่พื้นได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ 4MATEC
3.Mercedes-Benz C 350e Plug-in Hybrid 2016
หล่อสมาร์ทโดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ รถที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องเสมอมาเป็นในดวงใจของคนรักรถทั่วโลก มักจะมีความแตกต่างมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง โดยเฉพาะในเมืองไทยรถยนต์ในอนุกรมเดียวกันอาจมีรูปแบบของตัวรถหลายรูปแบบ เช่น แบบ ซีดาน เอสเตส และ คูเป้ มีรถหลายรุ่นมีครบตามที่กล่าวมาเมื่อเวลาผ่านไปปรากฎว่า รุ่นที่ได้รับความนิยมจากคนรักรถต่างเสาะหามาเก็บสะสมไว้ มักจะเป็นรถคูเป้และรถในรูปแบบเอสเตส ในอนุกรมของ C-Class มีครบทุกรูปแบบดังที่กล่าวมาเมื่อเวลาผ่านไปคุณค่าและความนิยมก็หนีไม่พ้นที่กล่าวไป
Mercedes-Benz C 350e Plug-in Hybrid เป็นอีกหนึ่งคันที่ได้รับความนิยม ด้วยรูปทรงที่สวยงามหรูหรามีเอกลักษณ์เฉพาะตัววันนี้เป็นรถที่ถูกตามหาอีกคันหนึ่ง เพราะมากด้วยประโยชน์ใช้สอยและมีความสวยงามสไตล์พ่อบ้านสายซิ่ง นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้วในเรื่องของขุมพลังในการขับเคลื่อน เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้หลายๆ คนชื่นชอบ เพราะขุมพลังในการขับเคลื่อนเป็นแบบ Plug-in Hybrid ได้ทั้งสมรรถนะและความประหยัดแบบเหนือชั้น เครื่องยนต์ต้นกำลังเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบชาร์จ เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มสมรรถนะและความประหยัด สมรรถนะที่ได้จากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้ารวมแล้วมีแรงม้าอยู่ที่ 279 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 7G-Tronic
4. Range Rover 3.0 D
ตำนานของรถยนต์พรีเมี่ยมออฟโร้ดที่ลุยได้จริง Range Rover เป็นที่ยอมรับในเรื่องของความหรูหราสะดวกสบายและใช้ลุยได้จริง ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยในเวอร์ชั่นนี้นับเป็นเจเนอร์เรชั่นที่ 5 โดดเด่นด้วยด้วยภาพลักษณ์ดูสุขุมบึกบึนหรูหรา ด้วยระยะฐานล้อกว้างและยาวมีส่วนสำคัญช่วยเสริมให้ตัวรถมีความสง่างามมีพื้นที่ใช้สอยมากสำหรับในทุกการเดินทาง โดดเด่นด้วยโคมไฟหน้า LED ล้ำสมัยแบบดิจิทัลความละเอียดสูง ส่องสว่างไกลถึง 500 เมตร พร้อมระบบ Adaptive Front Lighting ไม่รบกวนสายตาผู้ใช้รถใช้ถนนท่านอื่น เทคโนโลยีการออกแบบตัวถัง MLA-Flex ให้ประสิทธิ์การขับขี่อย่างเหนือชั้นในทุกเส้นทางระบบบังคับเลี้ยวสี่ล้อเพื่อการขับขี่ที่คล่องตัวในที่แคบและบนเส้นทางออฟโร้ด ระบบบังคับเลี้ยวแบบสี่ล้อที่ล้อหลังควบคุมด้วยด้วยไฟฟ้า หันเลี้ยวได้ถึง 7 องศา
ขุมพลังใหม่สมรรถนะสูงและประหยัดน้ำมัน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 350 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 6.1 วินาที ความเร็วเดินทางสูงสุด 234 กม./ชม. ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ iAWD ควบคุมโดยระบบ Intelligent Driveline Dynamics (IDD) ของแลนด์โรเวอร์ สามารถกระจายแรงบิดไปแต่ละล้อได้อย่างสมบูรณ์ตามสถานะการณ์จริง ระบบรองรับแบบที่ให้ความนุ่มสบายในการเดินทางปกติและหนึบแน่นสำหรับการลุย ด้วยระบบรองรับแบบถุงลม Adaptive Dynamics ปรับระดับความสูงหรือต่ำลงของใต้ท้องรถได้ตามสถานะการณ์ที่เปลี่ยนไป ให้การยึดเกาะทั้งบนทางเรียบและทางเส้นทางออฟโร้ด ไม่แปลกเลยที่ Range Rover เป็นอีกหนึ่งในใจของคนรักการผจญภัย
5. BMW X5 xDrive30d M Sport
หล่อและลุยได้เกินกว่าจินตนาการ นับตั้งแต่ BMW X5 ทำตลาดในเมืองไทยต้องบอกเลยว่าเป็นรถที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เป็นรถ SUV ที่หล่อเหลามาพร้อมสมรรถนะอันร้อนแรงและประสิทธิ์ภาพของระบบขับเคลื่อนเหนือชั้น บนทางเรียบคือ SUV สมรรถนะสูงให้ความสนุกสนานในการขับขี่และบังคับควบคุม บนทางออฟโร้ดยังให้ประสิทธิ์ภาพของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเหนือชั้น สำหรับ BMW X5 xDrive30d M Sport ในรหัสตัวถัง G05 กับบุคลิกใหม่ที่เปลี่ยนไปผสมผสานความหรูหราและความคมเข้มเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ไฟหน้าแบบ Adaptive LED ปรับเปลี่ยนทิศทางตามการหันเลี้ยวของพวงมาลัย ทำงานร่วมกับระบบ High-beam Assistant หล่อเข้มเต็มมาดความเป็นสปอร์ตให้เข้มขึ้นด้วยล้ออัลลอยด์แบบ M ขนาด 22 นิ้ว มุมมองด้านหลังโดดเด่นด้วยไฟท้ายแบบ LED และปลายท่อคู่แบบสปอร์ต ภายในห้องโดยสารเรียบง่ายแต่หรูหราโดดเด่นด้วยแผงหน้าปัดขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจออินโฟนเทนเมนท์แสดงผลความละเอียดสูง 12.3 นิ้วที่รองรับระบบสั่งการด้วยการเคลื่อนไหวมือ BMW Gesture Control ให้คุณสะดวกสบายและด้วยระบบสื่อสารและความบันเทิง BMW ConnectedDrive และเครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยมอย่าง Haman Kardon
BMW X5 xDrive30d M Sport สามารถ พาคุณทยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.5 วินาที ด้วยสมรรถนะจากเครื่องยนต์ขนาด 3,000 cc. โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า / 4,000 รอบต่อนาที กับแรงบิด 620 นิวตันเมตร / 2,000 – 2,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงในรอบต่ำสามารถพาคุณปีนไต่หรือผ่านอุปสรรค์ได้อย่างง่ายดาย ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Steptronic โดดเด่นเรื่องความประหยัดเชื้อเพลิงมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 14.5 กิโลเมตร / ลิตร
ช่วงล่างตอบสนองการขับขี่บนทางราบสไตล์สปอร์ตหนึบแน่นให้ความมั่นใจได้เต็มเปี่ยม ในทางลุยระบบรองรับแบบ Adaptive M ปรับเปลี่ยนการตอบสนองให้เหมาะสภาพเส้นทางที่เปลี่ยนไป โหมด ECO PRO ทำงานผสานกันระหว่างการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์ และช่วงล่างให้สัมพันธ์กัน BMW X5 xDrive30d M Sport จึงสามารถตอบสนองได้ในทุกความต้องการและอารมณ์ของผู้ขับขี่ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ xDrive สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการส่งถ่ายกำลังระหว่างล้อขับเคลื่อน เมื่อล้อใดล้อหนึ่งติดหล่มระบบจะแบ่งถ่ายการส่งกำลังไปยังล้ออื่นที่มีแรงยึดเกาะ ช่วยให้สามารถขับเคลื่อนผ่านเส้นทางที่เป็นโคลนเลนหรือทางออฟโร้ดได้ง่ายขึ้น