อันดับที่ 1 Mercedes-Benz CLS 220d
เป็นการปรับโฉมรับช่วงต้นปีเลยทีเดียวสำหรับซีดานหรูสไตล์ Coupe มาพร้อมความหล่อสปอร์ตตามสไตล์ของแพ็คเกจ AMG Premium นอกเหนือจากรูปลักษณ์ที่หรูหราแผงไว้ด้วยความเป็นสปอร์ตแล้ว สิ่งที่ทำให้ Mercedes-Benz CLS 220d มีความน่าสนใจมากขึ้น คือเรื่องของเครื่องยนต์ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูง ความจุ 2.0 ลิตร มาพร้อมกับเทคโนโลยี common rail direct injection
อัดอากาศด้วย Turbocharge พร้อม Intercooler มีกำลังสูงถึง 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ / นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบ / นาที ระบบส่งกำลังแบบ 9G Tronic ทำให้ตัวรถมีสมรรถนะที่ดี ขับขี่สนุก แม้รอบเครื่องยนต์จะไม่จัดจ้านเท่าเครื่องยนต์เบนซิน แต่ได้ความต่อเนื่องนุ่มนวลและความประหยัดที่น่าอภิรมย์ เป็นอีกหนึ่งคันที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบการเดินทาง
อันดับที่ 2 Mercedes-Benz GLA 200
รุ่นปรับโฉมใหม่มาพร้อมสองทางเลือกคือ GLA 200 Progressive และ GLA 200 AMG Dynamic สำหรับ GLA ถือว่าเป็น SUV ขนาดกะทัดรัดขับสนุกมีความคล่องตัวสูง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ
ขนาด 1.3 ลิตร Turbocharge ให้กำลัง 163 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ / นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,620 – 4,000 รอบ / นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ Dual Clutch 7G-DCT 7 สปีด ข้อดีของเทคโนโลยี Dual Clutch นั้นจะทำให้กำลังของเครื่องยนต์ส่งผ่านเกียร์ได้เต็มร้อยเพราะไม่มีทอร์คคอนเวอร์เตอร์เหมือนเกียร์อัตโนมัติทั่วไป ทำให้การตอบสนองของเครื่องยนต์ส่งผ่านไปยังล้อได้เต็มที่ผู้ขับขี่จะสัมผัสได้ถึงความสนุกสนานในการขับขี่
อันดับที่ 3 Mercedes-Benz C-Class C220d ( CKD )
รถยนต์ซีดานยอดนิยมตลอดกาลจากค่ายดาวสามแฉก มาพร้อมกับความคุ้มค่าคุ้มราคาอัดเต็มด้วยออฟชั่นและระบบความปลอดภัย ในเรื่องของความกว้างขวางภายในห้องโดยสารสะดวกสบายเต็มพิกัด เป็นรุ่นประกอบในประเทศที่ราคาคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เปิดตัวด้วยกันสองรุ่นย่อยคือ Mercedes-Benz C-Class C220d Avantgarde และ Mercedes-Benz C-Class C220d AMG Dynamic แตกต่างกันที่คันแรกหล่อแบบสุขุมคันที่สองมาในมาดสปอร์ต
นับเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลอันเลื่องชื่อของค่ายเป็นเครื่องยนต์ที่ปรับเพิ่มในเรื่องของสมรรถนะใหม่ ความจุ 2.0 ลิตร มาพร้อมกับเทคโนโลยี common rail direct injection อัดอากาศด้วย Turbocharge พร้อม Intercooler มีกำลังสูงถึง 200 แรงม้า ที่ 4,200 รอบ / นาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 2,800 รอบ / นาที มาพร้อมกับเทคโนโลยี EQ Boost มีมอเตอร์กำลัง 20 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตัน – เมตร ระบบส่งกำลังแบบ 9G Tronic สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม. / ชม. ได้ในเวลา 7.3 วินาที
อันดับที่ 4 Mercedes-Benz C 350e AMG Dynamic
เป็นเทคโนโลยี PHEV เจเนอเรชั่นใหม่วิ่งได้เกิน 100 กม.ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง จุดเด่นคือการใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดความจุถึง 25.4 kWh สอดคล้องกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ขุมพลังของ C 350 e ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,999 ซีซี ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังสูงถึง 129 แรงม้า
มอเตอร์มีแรงบิดสูงถึง 440 นิวตันเมตร มีกำลังสูงสุดรวม 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดรวม 550 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งเร้าใจจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.1 วินาที สามารถความเร็วสูงสุดด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าได้ถึง 140 ก.ม./ช.ม. ในโหมดขับขี่ปกติทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 245 กม./ชม. สามารถชาร์จแบบ DC charger จาก 0-100 % ได้ในเวลาเพียง 30 การชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ หรือ AC charger ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้ Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic คันนี้เหมาะกับการใช้งานและมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
อันดับที่ 5 Mercedes-EQS 500 4MATIC AMG Premium
ยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกจากแบรนด์ Mercedes-EQ ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมเปิดไลน์การผลิตภายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยรถยนต์คันนี้รังสรรค์ขึ้นด้วยแพลตฟอร์มของยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ในทุกรายละเอียด ทั้งการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรม เรื่อยไปจนถึงดีไซน์ภายนอกและภายในที่สะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นยานยนต์สำหรับโลกอนาคตจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยมาพร้อมขุมพลังไฟฟ้า 100% จากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่พร้อมความจุของแบตเตอรี่ขนาด 108.4 kWh ให้กำลังสูงสุด 449 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 828 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 4.8 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งด้วยความจุของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทำให้รถยนต์คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 702 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 1 ครั้ง