สำหรับคนที่กำลังมองหารถยนต์ไว้ใช้งานสักหนึ่งคัน แน่นอน คำถามยอดฮิต ที่ชวนให้ ลังเลใจ มาทุกยุคทุกสมัย ซื้อรถใหม่ป้ายแดง หรือ รถมือสอง แบบไหนดีกว่ากัน?
วันนี้ เราจะ พามาช่วยตอบคำถามคาใจ
“ราคา”
การซื้อรถยนต์หนึ่งคัน ที่จำเป็นต้องพิจารณาเพื่อประกอบการพิจารณาเพื่อตัดสินใจซื้อแล้ว แน่นอน ว่า “ราคา” ขายนั้นจะต้องมีผลต่อกันตัดสินใจซื้อของเรามาเป็นอันดับต้นๆ สิ่งที่ต้องคำนึง หากเป็นรถใหม่ป้ายแดงยิ่ง ออฟชั่นเยอะ ฟีเจอร์เพียบ เทคโนโลยีล้ำ พึงระลึกไว้ใจได้เลยว่า… สิ่งที่เพิ่มเข้ามามากขึ้นเท่าไร ยิ่งหมายถึง “ราคา” ที่มากขึ้นและยิ่งราคาสูง ก็ย่อมส่งต่อส่งผลกระทบต่อเงินในกระเป๋าภาระผ่อนส่งต่อเดือน ก็ย่อมต้องสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ จากการแข่งขันของค่ายรถยนต์และบริษัทผู้ให้บริการสินเชื่อ ลิสซิ่งเอง ก็การแข่งขันค่อนข้างหนักหน่วง บางช่วงบางจังหวะของการซื้อรถใหม่ป้ายแดงอาจจะได้เห็นเงื่อนไขพิเศษ ดาวน์น้อย ผ่อนยาว หรือ ดอกเบี้ย 0% มีทั้ง 45 เดือน หรือบางครั้งลากยาว 60 / 72 เดือน ก็เคยมีให้เห็น ขณะที่ตลาดรถยนต์มือสอง หากเทียบกับ การซื้อรถใหม่ป้ายแดง ในระดับราคาเท่านั้น แต่ เรา อาจจะได้ใช้งานรถยนต์มือสอง ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เป็นรุ่นที่สูงกว่า หรือ บางครั้ง อาจจะทำให้ขยับไปซื้อรถยนต์มือสอง แบรนด์ยุโรปได้ เหมือนกัน เช่น เดิมอาจจะมองรถระดับ ซิตี้คาร์ป้ายแดงไว้ แต่ จากราคาจำหน่าย อาจจะทำให้ คุณไปมองหา รถมือสองที่มีขนาดใหญ่กว่าได้แบบสบายๆ
แต่ ทั้งนี้ การซื้อรถยนต์มือสอง นั้นจะต้องอาศัยความละเอียดและใจเย็น ในการเลือกคัดสรรร เพราะรถยนต์ มือสอง มีความ “ยูนิค” คือ รถมือสองแต่ละคันก็จะ “มีเพียงคันเดียวเท่านั้น” ดังนั้นแล้ว ผู้ซื้อต้องตรวจสอบเช็กประวัติของรถคันนั้นได้อย่างถี่ถ้วน เพื่อให้ มั่นใจว่า เราจะไม่ถูกหลอกเอาง่ายๆ
“สภาพของรถ”
แน่นอนกว่า รถใหม่ป้ายแดง นั้นเป็นรถใหม่กิ๊กๆ ออกจากโรงงาน เรียกว่า ซื้อรุ่นนี้ ออฟชั่นนี้ จะได้ สภาพเหมือนกันหมด แต่สำหรับ รถ มือสอง นั้น ไม่ใช่ รถเดียวกัน สีเดียวกัน แต่ สภาพของ รถ ขึ้นอยู่กับสภาพ การใช้งานของผู้ใช้ รถคนก่อน ทำให้ รถมือสองมีความเป็นยูนิคสุดๆ ดังนั้นการเช็กสภาพของรถยนต์มือสอง จึงมีความสำคัญยิ่ง สภาพนอกอาจจะไม่มีร่องรอยการเฉี่ยวชน แต่ ใครจะรู้รถคันนี้อาจจะผ่านการซ่อมหนักมา จำเป็นต้องอาศัยผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญมาช่วย เลือกซื้อรถ จะอาศัยเฉพาะความเชื่อใจนั้นไม่พอ เพราะอนาคต ภาระอีกอย่างของการใช้รถมือสอง คือ “ซ่อม บำรุงรักษา” ย่อมต้องบ่อยกว่ารถใหม่ แถมผู้ใช้ยังจะต้องหาศูนย์ซ่อมหรือ อู่ที่ไว้ใจได้ด้วย ขณะที่รถใหม่ป้ายแดงส่วนใหญ่จะเข้าศูนย์บริการ ในช่วง 3- 5 ปีแรก ตามการรับประกันของค่ายรถยนต์แต่ละยี่ห้อ
นอกจากนี้ การเปรียบเทียบเทียบข้อดีข้อเสียของรถใหม่ป้ายแดงและรถมือสอง ยังมีรายละเอียด ยิบย่อย สาระพัด ทั้งอัตราดอกเบี้ย การจัดไฟแนนซ์ ระยะเวลารับประกัน การซ่อมบำรุง บริการการดูแลของผู้ขาย ฯลฯ หลากหลายปัจจัยเหลานี้ย่อมส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์สักหนึ่งคัน แต่ทั้งหมดทั้งมวล “ผู้ซื้อ” คือผู้ประเมิน และ ย่อมรู้ลักษณะความต้องการและการใช้งานรถยนต์ที่ต้องการอย่างแท้จริง จะต้องศึกษาและเช็คสภาพรถยนต์ให้ดีจะดีที่สุด เพื่อการใช้งานได้อย่างราบรื่น และขับรถไปในทุกๆเส้นทางได้อย่างมีความสุข กับ “รถยนต์คันโปรด”
