BMW เติมไลน์อัพรถอเนกประสงค์ ซึ่ง ค่ายผู้ผลิตเมืองเบียร์ ใช้คำว่า Sports Activity Vehicle (SAV) สื่อถึงคาแรคเตอร์ที่เน้นความสนุกในการขับขี่ และเป็นหนึ่งในเซกเมนต์สำคัญที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในประเทศไทย ส่งผลให้จำนวนผู้เล่นรวมถึงตัวเลือกเพิ่มขึ้นตามความต้องการด้วยเช่นกัน
BMW XM คือรถรุ่นล่าสุดมาพร้อมความโดดเด่นทั้งในเรื่องของรูปโฉม รวมถึงสมรรถนะที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ภายใต้ขุมพลังปลั๊ก-อิน ไฮบริด ผสานการทำงานระหว่าง เครื่องยนต์เบนซิน 8 สูบ ขนาด 4.4 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี BMW M TwinPower Turbo และ ระบบขับเคลื่อน M HYBRID
สำหรับรูปร่างหน้าตาของ BMW XM สปอร์ตทันสมัยด้วยกระจังหน้าทรง ไตคู่ Iconic Glow ที่มาพร้อมไฟส่องสว่าง เติมความพรีเมียมด้วย แถบตกแต่งด้านข้างรถที่สามารถเลือกได้ระหว่างสีทองและสีดำ ไล่เรียงจากบริเวณรอบกระจังหน้า รวมถึงรอบประตูและล้อรถ ไปจนถึงด้านท้ายบริเวณชายกันชนล่าง เพิ่มความโดดเด่นและเป็นตัวตนที่จัดเจน
ทั้งยังเป็นการรวมคุณลักษณะต่างๆที่ย้อนให้นึกถึงอดีตของ BMW อาทิ โลโก้บีเอ็มดับเบิลยูที่กระจกหลัง รวมถึงไฟท้ายรูปทรงเรียว นอกจากนี้ยังได้เพิ่มความโดดเด่นสะดุดตาด้วยล้ออัลลอย M ขนาด 23 นิ้ว ลาย star spoke แบบสลับสี ขึ้นอยู่กับโทนสีที่เลือกใช้ระหว่างสีทองและสีดำ
ภายในห้องโดยสารตกแต่งดีไซน์ M จัดเต็มด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ เบาะนั่งตอนหน้าแบบ M Multifunctional บริเวณที่นั่งคนขับและผู้โดยสาร พร้อมด้วยระบบระบายอากาศและฟังก์ชันนวดผ่อนคลายสําหรับเบาะนั่งตอนหน้า คอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง BMW Individual เติมความพรีเมียมด้วยหลังคาลวดลายปริซึม พร้อมด้วยหลอด LED กว่า 100 ดวงบนหลังคา
เติมฟีลลิ่งสปอร์ตโฉบเฉี่ยวให้กับการขับขี่ พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M และเข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M เสริมความทันสมัยด้วย BMW Head-up Display และระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฎิบัติการ BMW Operating System 8 สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ รวมถึงระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ IconicSounds Electric ที่ช่วยเติมเต็มอารมณ์สปอร์ตเกรี้ยวกราด ดุดัน ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 8 สูบ ขนาด 4.4 ลิตร BMW M TwinPower Turbo ให้พละกำลังสูงสุด 489 แรงม้า ที่ 5,400-7,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ที่ 1,600-5,000 รอบ/นาที ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ส่งผลให้ระบบขับเคลื่อน M HYBRID สามารถรีดพละกําลังรวมสูงสุด 653 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 800 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ 4 ล้อ M xDrive
ผู้ขับขี่ยังสามารถกดปุ่ม M Hybrid ที่คอนโซลกลางเพื่อเลือกโหมดการขับขี่ ซึ่งมีระยะทางที่ขับด้วยไฟฟ้า 100% ได้ราว 82-88 กิโลเมตร รวมถึงความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ขนาด 25.7 กิโลวัตต์-ชั่วโมง เติมเต็มการใช้งานด้วยระบบช่วงล่าง Adaptive M Suspension Professional ให้ฟีลลิ่งการขับขี่หนึบแน่นสไตล์สปอร์ต
ครบครันด้วยระบบความปลอดภัย อาทิ ถุงลมนิรภัยสําหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า รวมถึงถุงลมนิรภัยด้านข้างและถุงลมนิรภัยศีรษะ ระบบ Teleservices และปุ่มโทรออกฉุกเฉิน ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ ระบบ Active Protection รวมถึงระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง และระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
BMW XM ใหม่ มีให้เลือกใช้ 7 สี ได้แก่ สีดำ Black Sapphire, สีเขียว Cape York Green, สีดำ Carbon Black, สีเทา Dravit Grey, สีฟ้า Marina Bay Blue, สีขาว Mineral White และสีแดง Toronto Red ขณะที่ภายในมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Deep Lagoon, สีขาว Silverstone, สีดำ Black และ สีส้ม Sakhir Orange มาพร้อมกับแถบตกแต่งด้านข้างสีทองและสีดำ