เทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าในปี 2023 นี้ถือว่ามาแรงมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นสูง เลยทำให้คนหนีมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น บวกกับในปี 2023 นี้ ภาครัฐให้การสนับสนุน ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นมีราคาจำหน่ายที่ถูกลงจากราคาปกติหลายแสนบาทเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ การจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งานสักคัน ควรศึกษาให้ละเอียดถี่ถ้วน หากเรารู้ถึงข้อดี ข้อเสียแล้ว ก็จะช่วยให้การตัดสินใจทำได้ง่ายขึ้น บความนี้ Bravoauto ได้รวบรวม 5 ข้อดี ข้อเสีย ที่ต้องรู้ ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า มาฝากทุกท่าน
5 ข้อดีของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
1.พลังงานไฟฟ้าถูกกว่าราคาน้ำมัน
มองดูแล้วมันอาจจะเทียบกันไม่ได้ เพราะเป็นพลังงานคนละรูปแบบ แต่ถ้าเอามาคำนวนเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น
Honda Jazz GK เติมน้ำมันแก็สโซฮอลล์ E20 ราคาลิตรละ 33 บาท วิ่งใช้งานจริงได้ประมาณ 14 กม. (เฉลี่ย กม. ละ 2.35 บาท)
Nate V ชาร์จไฟ 1 หน่วย ราคา 4.50 บาท วิ่งใช้งานจริงได้ประมาณ 7 กม. (เฉลี่ย กม. ละ 0.64 บาท)
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า รถยนต์ไฟฟ้า Neta V ประหยัดกว่า Honda Jazz กม. ละ 1.71 บาท ถ้าเราต้องใช้รถในการเดินทางปีละ 30,000 กม. รถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้ปีละ 51,300 บาท เลยทีเดียว
2.เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
รถยนต์ไฟฟ้า เมื่อระบบทำงานจะไม่มีการคายไอเสีย หรือปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ต่างจากรถเครื่องยนต์สันดาปที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ต้องมีการเผาไหม้จุดระเบิด แม้ในรุ่นใหม่ ๆ จะมี EGR เพื่อวนไอเสียกลับไปใช้ใหม่ แต่ในภาพรวมก็ยังคงปล่อยไอเสียออกมาอยู่ดี
3.อัตราเร่งดีอย่างต่อเนื่อง
รถยนต์ไฟฟ้า จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ซึ่งจะสร้างพละกำลังทั้งแรงม้า และแรงบิดได้ดีกว่ารถเครื่องยนต์สันดาป ทำให้จังหวะการขับออกตัวไม่รู้สึกหน่วง ได้อัตราเร่งที่ดีทุกย่านความเร็ว อีกทั้งกลไกในการขับเคลื่อนไม่ต้องใช้การจุดระเบิดเพื่อเผาไหม้ จึงทำให้ไม่มีเสียงเวลาขับ ถือเป็นการช่วยลดมลพิษทางเสียงได้อีกด้วย
4.ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาไม่แพง
รถยนต์ไฟฟ้า มีชิ้นส่วนหลัก ๆ คือ มอเตอร์ และแบตเตอรี่ ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาก็จะไม่มีอะไรมาก เมื่อถึงรอบเช็กระยะ หลัก ๆ แล้วก็จะเปลี่ยนแค่กรองแอร์ น้ำหล่อเย็นสำหรับมอเตอร์และแบตเตอรี่ น้ำมันเกียร์ ซึ่งรายการดังกล่าวมีราคาแค่หลักร้อยถึงพันบาทเท่านั้น และเนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนที่น้อยกว่ารถเครื่องยนต์สันดาป จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนอะไหล่จุกจิก สำหรับราคาแบตเตอรี่ลูกใหญ่ที่หลายท่านพูดถึงและเป็นกังวลกันอยู่นั้น ส่วนใหญ่จะมีการรับประกันที่ยาวนาน 8-10 ปี บางท่านขายรถไปก่อนที่แบตเตอรี่จะหมดอายุเสียอีก
5.ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
รถยนต์ไฟฟ้าคืออีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดอากาศเสีย ซึ่งก็สอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม และนโยบายลดโลกร้อน ถือเป็นวาระระดับโลก ที่รัฐบาลในหลายประเทศต่างตื่นตัว ด้วยเหตุผลนี้ ส่งผลให้รัฐบาลมีความต้องการผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าให้มีเพิ่มขึ้น หรือตั้งเป้าให้มาทดแทนรถเครื่องยนต์สันดาปแบบเดิม จึงมีมาตรการสนับสนุนจากทางภาครัฐอยู่หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า, สิทธิพิเศษทางภาษี หรือสิทธิพิเศษอื่นๆ ที่ได้มาเฉพาะผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น
5 ข้อเสียของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
1.สถานีชาร์จไฟมีน้อย
ส่วนใหญ่ของแถมที่จะได้เมื่อคุณซื้อรถยนต์ไฟฟ้า คือสายชาร์จฉุกเฉิน และ EV Wall Charger สำหรับการชาร์จที่บ้าน หากการเดินทางในแต่ละวันอยู่ในละแวกบ้าน ก็คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราสามารถนำรถกลับมาชาร์จไฟที่บ้านได้ แต่สำหรับท่านที่อยู่คอนโด หรือบ้านเช่า อาจต้องใช้บริการสถานีชาร์จไฟตามจุดต่าง ๆ และอย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยเพิ่งเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าได้ไม่นาน จึงทำให้สถานีชาร์จไฟตามจุดต่าง ๆ มีอยู่น้อยมากหากเทียบกับจำนวนปั๊มน้ำมัน
2.ต้องวางแผนการเดินทางให้ดี
รถยนต์ไฟฟ้ามีระยะทางในการวิ่งที่จำกัด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะวิ่งได้ประมาณ 200-600 กม.ต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง ดังนั้นการเดินทางไกลจะต้องวางแผนให้ดี และต้องดูด้วยว่าเส้นทางที่เราจะผ่านนั้นมีสถานีชาร์จไฟตรงไหนบ้าง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญ อาจต้องเสียเวลารอต่อคิวชาร์จไฟ ทำให้เสียเวลาในการเดินทาง
3.รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาสูง
ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ายังมีราคาที่ค่อนข้างแพง แม้จะหักส่วนลดที่ได้จากรัฐบาลแล้วก็ตาม สืบเนื่องจากกระบวนการผลิตแบตเตอรี่ที่มีต้นทุนสูง รวมถึงการแข่งขันทางการตลาดที่ต้องสู้ด้วยออพชัน จึงทำให้ตัวรถมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย
4.ต้องโหลดหลายแอพพลิเคชันไว้ในโทรศัพท์
ปัจจุบันมีผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟอยู่หลายเจ้า ซึ่งแต่ละเจ้าต่างก็สร้างแอพพลิเคชั่นเป็นของตัวเองขึ้นมา ทำให้ผู้ใช้งานต้องโหลดหลายแอพพลิเคชันมาไว้ในโทรศัพท์ อีกทั้งยังต้องศึกษาอีกว่าผู้ให้บริการแต่ละเจ้านั้นมีข้อกำหนดในการใช้งานอย่างไร บางเจ้าต้องจองเวลา บางเจ้าต้องผูกกับบัตรเครดิต บางเจ้าต้องเติมเงินเข้าไปก่อน ซึ่งมันก็ดูวุ่นวายสำหรับมือใหม่เลยทีเดียว
5.อู่ที่รับซ่อมรถยนต์ไฟฟ้ามีอยู่น้อย
ปัจจุบันอู่ซ่อมรถยนต์สันดาปมีอยู่มากมายทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย ต่างจากอู่ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอยู่น้อยมาก และรถบางรุ่นต้องใช้เครื่องมือเฉพาะในการวิเคราะห์ปัญหา ดังนั้นเมื่อรถเสีย แทบจะต้องนำรถเข้าศูนย์บริการเพียงอย่างเดียว
สุดท้ายนี้ จะเห็นได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละคน แนะนำให้ลองเช่ารถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งานสักระยะเพื่อดูว่าตอบโจทย์การใช้งานของเรามากน้อยแค่ไหน เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่ารถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นราคาสูงพอสมควร