ก่อนซื้อรถยนต์มือสองต้องไม่ลืมตรวจเช็กเลขไมล์

การตัดสินซื้อรถยนต์มือสองนั้น สิ่งสำคัญที่เราควรต้องท่องไว้ใน “ความรอบคอบ” และต้องทำใจตลอดเวลา คือ การตรวจเช็กสภาพรถยนต์คันนั้นๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ-ขาย เพราะปัจจัยหลักๆ ของการซื้อรถยนต์ มือสอง สักหนึ่งคัน เชื่อว่าผู้ซื้อส่วนใหญ่จะต้องหาเรื่องของความคุ้มค่า  ความประหยัด และ ได้รถยนต์ในสภาพที่พร้อมใช้งาน  

วันนี้เราจะชวนคุณผู้อ่านมาร่วมกันตรวจเช็กความพร้อมอีกหนึ่งอย่างที่จะละเลยไปไม่ได้ คือ การตรวจเช็ก “เลขไมล์” หรือ ระยะทางที่ผ่านการใช้งานของรถยนต์คันนั้นๆ ว่า วิ่งใช้งานไปแล้วมากน้อยแค่ไหนและถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม  และ แตกต่างจากรถใหม่ป้ายแดงอย่างสิ้นเชิง เพราะ จำนวนระยะทางที่ถูกใช้งานไป หรือ จำนวน “เลขไมล์” ที่เพิ่มขึ้น ย่อมมีผลต่อ “ราคา” จำหน่าย  ยิ่งเลขไมล์มาก ราคากลับส่วนทาง  หรือต้อง ลดลงไป  โดยปกติค่าเลขไมล์ โดยเฉพาะของการใช้งานรถยนต์ 1 คัน จะอยู่ที่ราวๆ 10,000-20,000 กิโลเมตรต่อปี  หากคำนวนคราวๆ รถที่ มีระยะเวลา 5 ปี เลขไมล์จึงไม่ควรเกิน 100,000 กิโลเมตรหรือรถบางคัน มีอายุ 7-8 ปี แต่ วิ่งไปไม่ถึง 80,000 ก็มี เป็นต้น 

แต่เราจะดูเพียงแค่เลขไมล์นั้น ก็ไม่สามารถพิสูจน์หรือการันตีได้ว่า รถยนต์คันนั้นๆ จะมีสภาพพร้อมใช้งาน เพราะ รถที่เลขไมล์น้อย แต่ มีอายุงานมาก เช่น 7-10 ปี แต่ วิ่งไปแค่ 100,000 กิโลเมตร ก็ใช่ว่าสภาพของรถคันนั้นๆจะลักษณะการใช้งานในแต่ละคัน หรือ บางคันเลขไมล์น้อย แต่ ใช้งานในสภาพที่ค่อนข้างหนัก ไม่ค่อยได้บำรุงรักษารถยนต์ก็มี  

วันนี้ลองมาดูวิธีการสังเกตุดู “เลขไมล์” ก่อนตัดสินใจซื้อรถมือสองกัน เพื่อให้เราสามารถใช้งานรถยนต์มือสองคันนั้นได้อย่างสบายใจ  วิธีสังเกตุง่ายๆ คือการขอดู Book Service  เพราะรถใหม่ทุกคัน จะต้องเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการรถยนต์ ก่อนรถหมดระยะเวลารับประกัน คล้ายๆ กับเป็นการตรวจสุขภาพอย่างเป็นประจำ ซึ่งตรงนี้จะช่วยหลักฐานการยืนยันสุขภาพรถได้ดีวิธีหนึ่ง  

เพราะนอกจากจะเช็ก “เลขไมล์” ของรถคันนั้นๆได้แล้ว ยังแสดงให้เห็นว่ารถยนต์คันนี้ผ่านมาซ่อม-เปลี่ยนอะไรมาบ้างหรือหากซื้อรถยนต์มือสองคันที่ต้องการซื้อ หมดระยะเวลาประกันไปแล้ว หรือ มีอายุเกิน 5 ปี ขึ้นไป คุณอาจจะหาผู้เชี่ยวชาญ หรือ บริษัทเอกชน ที่ไว้ใจได้ ที่มีความน่าเชื่อถือเข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบสภาพรถเข้ามาช่วยตรวจสอบตรงนี้ช่วยตรวจเช็กภาพของ รถคันนั้นว่า ไม่ได้ถูก ปรับแต่ง “เลขไมล์” หรือ “กรอกไมล์” เพื่อลดจำนวนระยะทางการวิ่งแล้ว ยังสามารถให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสภาพรถทั้งคัน  ให้ว่ามีจุดใดบกพร้อมหรือ ผ่านการชน ซ่อมหนัก มากแล้วหรือไม่ แล้วที่สำคัญจะคุ้มค่า กับการซื้อมาใช้งาน แล้ว ซ่อมไปด้วยหรือไม่ 

รายละเอียดอีกอย่างที่ไม่ควรละเลย คือรถยนต์มือสองจะมีแค่คันเดียวเท่านั้น แต่ คุณสามารถมองหารถยนต์มือสอง รุ่นเดียวกัน สีเดียวกันมาเปรียบเทียบได้ แต่ ต้องไม่ลืมว่า  ตรวจสอบและตรวจเช็ก “เลขไมล์” เพราะรถอาจจะเหมือนกัน สภาพ โดยรวมอาจไม่แตกต่างกันมาก แต่รถทั้งสองคัน “เลขไมลล์” หรือ ระยะทางที่ ใช้งานต้องแต่ต่างๆ  จุดนี้ก็จะทำให้ ราคาขายต่างกันด้วย  คุณอาจจะเจอรถมือสองคันที่ถูกใจที่สุด แต่ต้องไม่ลืมมองหากอีกคันเพื่อเปรียบเทียบ เพื่อให้ได้ รถที่พร้อม -เหมาะสมกับการใช้งาน

อย่าลืมท่องให้ ขึ้นใจ หากใครคิดจะซื้อรถมือสองอย่าลืมดู “เลขไมล์” แล้วนำเลขไมล์ไปเปรียบเทียบกับสภาพรถ และตรวจเช็กสภาพของรถก่อนตัดสินใจซื้อด้วย เพื่อให้ได้รถมือสองที่สภาพดี คุ้มค่าน่าใช้งานมากที่สุด และหากจะซื้อรถมือสองที่สามารตรวจสอบการใช้งานได้ https://bravoauto.co.th เพราะจะมีการรับประกันคืนเงินภายใน 10 วัน พร้อมรับประกันคุณภาพรถยนต์ 12 เดือน อีกทั้งยังผ่านการตรวจสอบ 165 จุด มีบริการส่งมอบรถยนต์ถึงบ้านฟรีและบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนน 12 เดือน