การซื้อรถใหม่หรือรถมือสองในไทยเป็นการตัดสินใจทางการเงินระยะยาว และสิ่งสำคัญคือต้องตัดสินใจให้ถูกต้องโดยพิจารณาจากความต้องการและไลฟ์ไตล์
หากคุณเป็นผู้ที่ต้องการซื้อรถใหม่หรือรถมือสอง ต่อไปนี้เป็น 10 สิ่งที่ควรพิจารณาเพื่อการคัดเลือกรถยนต์ที่เหมาะกับความต้องการของคุณ
1. ความจุผู้โดยสารและพื้นที่ห้องโดยสาร
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรพิจารณาเมื่อซื้อรถยนต์คือความจุของผู้โดยสารและพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ซึ่งแตกต่างกันไปตามประเภทของรถ หากคุณกำลังมองหารถยนต์ขนาดกะทัดรัดและมีสไตล์ รถคูเป้สองประตูหรือรถเปิดประทุนน่าจะเหมาะกับคุณ แต่สำหรับการโดยสารกับเพื่อนหรือคนที่คุณรัก รถเก๋งขนาดเล็กหรือรถแฮทช์แบคที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 4 คนก็เพียงพอ
หากต้องการรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้นในห้องโดยสารที่ใหญ่ขึ้น รถครอบครัว เช่น SUV 7 ที่นั่ง และ MPV 7 ที่นั่ง จะเหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถอเนกประสงค์ MPV และ SUV ที่ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์เนื่องจากมีที่นั่งแถวที่สามที่สามารถรองรับคนได้อีกสองสามคน หรือ พับลงเพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บของ
2. ประเภทเชื้อเพลิง
รถยนต์ดั้งเดิมมีเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ซึ่งขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเบนซินหรือดีเซล แต่ด้วยหลายประเทศที่เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EVs) รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) และรถยนต์ไฮบริดกำลังกลายเป็นรถยนต์แห่งอนาคตอย่างรวดเร็ว
รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่หรือ BEV ใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ซึ่งจำเป็นต้องชาร์จด้วยเครื่องชาร์จ EV ในขณะที่รถยนต์ฟูลไฮบริด (Plug-in Hybrid) คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม เนื่องจากมีทั้งประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและความสะดวกสบาย นำเสนอมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ EV ควบคู่ไปกับเครื่องยนต์เบนซิน รถยนต์ไฮบริดเต็มรูปแบบจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขณะแล่นในโหมด EV และใช้เฉพาะเครื่องยนต์เบนซินและเชื้อเพลิงในเวลาใช้ความเร็วสูงเท่านั้น ในขณะเดียวกัน แบตเตอรี่รถยนต์จะถูกชาร์จใหม่ระหว่างกระบวนการเบรกแบบจ่ายพลังงานกลับคืน และไม่จำเป็นต้องเสียบปลั๊กเข้ากับเครื่องชาร์จ EV
3. การควบคุบและความแรงของเครื่องยนต์
รถยนต์ที่เลือกควรตอบสนองได้ดี มั่นคง และสะดวกสบายเมื่อเร่งความเร็วบนทางด่วนหรือถนนในเมือง แต่หากคุณขับรถออกต่างจังหวัดบ่อยครั้ง คุณอาจต้องการพิจารณารถ SUV ที่มีความสามารถในการขับเคลื่อนสี่ล้อ ระยะห่างจากพื้นที่สูงขึ้น และการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมบนพื้นผิวออฟโร้ด เพื่อสมรรถนะที่ลุยมากขึ้นด้วยรถที่ขับเคลื่อนล้อหลังและจุดศูนย์ถ่วงต่ำจะทำให้คุณมีการควบคุม การเร่งความเร็ว และความเร็วสูงสุดที่เหมาะสม
4. ขับเคลื่อนล้อหน้า ล้อหลัง หรือทั้ง 4 ล้อ
ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเป็นมาตรฐานสำหรับรถยนต์สมัยใหม่ส่วนใหญ่ เพราะโดยทั่วไปจะปลอดภัยกว่าหากขับในความเร็วจำกัดและมีพื้นที่ภายในห้องโดยสารมากกว่า โดยระบบขับเคลื่อนล้อหลังมักพบในรถสปอร์ตและรถซีดานหรูแบบดั้งเดิม ซึ่งขับเคลื่อนได้คล่องตัวกว่าและมีระบบควบคุมการยึดเกาะถนนที่ทันสมัยเพื่อการยึดเกาะสูงสุด ในขณะที่รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD & 4WD) เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการผจญภัยแบบออฟโร้ด
5. เกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์ธรรมดา
รถใหม่ในปัจจุบันมักจะมาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งหมายความว่าผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์ด้วยตนเองด้วยการเหยียบคลัตช์อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม เกียร์ธรรมดาสามารถเพิ่มเสน่ห์แบบย้อนยุคให้กับประสบการณ์การขับขี่สำหรับผู้ขับขี่ที่ชอบเปลี่ยนเกียร์ด้วยตนเอง
6. ความจุในการจัดเก็บของ
โดยทั่วไปแล้วรถสปอร์ตจะมีความจุในการเก็บสัมภาระน้อยที่สุด ในขณะที่รถแฮทช์แบคและรถซีดานมีขนาดที่เหมาะสมในการเก็บสัมภาระ รถอเนกประสงค์ MPV และรถอเนกประสงค์ SUV สามารถมอบความคล่องตัวในการจุของมากขึ้นเนื่องจากมีพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง และสามารถติดตั้งที่ยึดหลังคาหรือแร็คจักรยานเพื่อบรรทุกสิ่งของต่างๆ เช่น จักรยานเสือภูเขาหรือกระดานโต้คลื่น สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณารูปร่างและขนาดของท้ายรถเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใส่สิ่งของขนาดใหญ่ เช่น จักรยานพับและรถเข็นเด็กได้
7. คุณลักษณะด้านความปลอดภัย
ความปลอดภัยเป็นหนึ่งในข้อพิจารณาที่สำคัญที่สุดเสมอเมื่อตัดสินใจซื้อรถยนต์ ดังนั้นควรมองหารถยนต์ที่มีคุณลักษณะและระบบความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม เช่นระบบ Lane Tracing Assist ซึ่งช่วยให้คุณอยู่ในเลนของคุณและหลีกเลี่ยงการหลงทางไปยังเลนอื่น หรือ ระบบ Bling Spot Monitoring หรือ ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจองมอง
8. ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
หลังจากที่คุณได้เลือกรถยนต์แล้ว คุณควรพิจารณาบริการหลังการขาย เช่น การรับประกันและแพ็คเกจการบริการ ตัวแทนจำหน่ายบางแห่งเสนอการรับประกันรถยนต์ที่ยาวนานตลอดอายุการใช้งานของรถยนต์ ซึ่งเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญ เนื่องจากการบำรุงรักษารถยนต์อาจเป็นเรื่องที่มีค่าใช้จ่ายสูง
ค่าใช้จ่ายที่ต้องพิจารณาอีกอย่างคือค่าเบี้ยประกันรถยนต์ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามโปรไฟล์ของรถและคนขับ ตัวอย่างเช่น รถสปอร์ตมักจะกำหนดเบี้ยประกันที่สูงกว่า ในขณะที่ผู้ขับขี่อายุน้อยและสูงวัยจะถูกเรียกเก็บเงินเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
9. มูลค่าการขายต่อ
เมื่อซื้อรถยนต์ ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ราคาขายต่อในอนาคต บางยี่ห้อ ประเภทและรุ่นของรถยังคงรักษามูลค่าได้ดีกว่ารถยี่ห้ออื่นๆ ในตลาด การทำวิจัยก่อนที่คุณจะซื้อรถจะช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการขายหรือแลกเปลี่ยนรถของคุณในอนาคต
10. ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติมสำหรับรถยนต์มือสอง
ในการประเมินสภาพทั่วไปของรถ ให้ดูที่เลขไมล์รถ และให้สังเกตว่ามีความเสียหายภายในหรือภายนอกที่มองเห็นได้หรือไม่ ตรวจสอบการสึกหรอของชิ้นส่วนรถยนต์ที่สำคัญ เช่น ยางรถ หรือบริเวณใต้เครื่องยนต์ ลองทดลองขับและสังเกตว่ามีเสียงผิดปกติ หรือเสียงสั่นของเครื่องยนต์หรือไม่ และดูว่าล้ออยู่ในแนวที่ไม่ถูกต้องหรือไม่
เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความสบายใจ คุณอาจต้องการพิจารณารถยนต์มือสองที่ผ่านการรับรองซึ่งจำหน่ายโดยผู้จัดจำหน่ายยานยนต์ที่น่าเชื่อถือ