คู่มือการเลือกซื้อรถ SUV

รถเอสยูวีหรือ SUV กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้ซื้อรถในปัจจุบัน หลายคนชอบรถ SUV เพราะรูปลักษณ์และการออกแบบที่สมบุกสมบัน รวมถึงความสูงของรถที่ยกสูงขึ้นซึ่งทำให้มองเห็นได้รอบด้านมากขึ้น รถเอสยูวียังเป็นถือว่าเป็นรถยนต์อเนกประสงค์อีกหนึ่งประเภทที่ใช้งานได้จริงด้วยพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง ทำให้เหมาะสำหรับครอบครัวและคนที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟ

ผู้ซื้อรถ SUV จำนวนมากมักจะมีความชอบในกิจกรรมต่างๆ เช่น การขับรถออฟโรด หรือมีงานอดิเรก เช่น ปั่นจักรยานเสือภูเขาหรือเล่นกระดานโต้คลื่น ด้วยเหตุนี้ รถ SUV จึงเข้ากับไลฟ์สไตล์เหล่านั้นเพราะสามารถรองรับการขับขี่แบบออฟโรดได้ และมักมาพร้อมคุณสมบัติที่ใช้งานได้จริง เช่น แร็คหลังคาสำหรับติดตั้งจักรยานและกระดานโต้คลื่น รวมถึงพื้นที่เก็บสัมภาระที่ใหญ่ขึ้นเพื่อจัดเก็บสิ่งของมากมาย เช่น เสื้อผ้าและ อุปกรณ์เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว

หากคุณต้องการซื้อรถ SUV นี่คือสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ

1. ขนาดของรถ

SUV มีหลายขนาด ตั้งแต่ SUV ขนาดเล็กและกะทัดรัดไปจนถึง SUV ขนาดกลาง ไปจนถึง SUV ขนาดใหญ่และหรูหราเป็นพิเศษ เนื่องจากในปัจจุบันมีรถ SUV ให้เลือกมากมาย โดยทั่วไปแล้ว รถ SUV ส่วนใหญ่มีการออกแบบรูปทรงมาตรฐาน โดยมีประตูผู้โดยสารสองหรือสี่ประตูและประตูหลังเพื่อเข้าถึงพื้นที่เก็บสัมภาระ

เนื่องจากมีตัวเลือกมากมายทั้งในด้านขนาดและรุ่นต่างๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณาความต้องการและงบประมาณก่อนตัดสินใจ โดยปกติแล้วรถ SUV ขนาดใหญ่จะมีพื้นที่สำหรับผู้โดยสารและสิ่งของต่างๆ มากขึ้น แต่ก็อาจขับและจอดได้ยากขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากขับในเมืองที่มีพื้นที่จำกัด ทำให้รถ SUV ขนาดเล็กขับได้ง่ายกว่า แต่อาจไม่มีพื้นที่ภายในรถมากพอหากต้องรองรับสิ่งของขนาดใหญ่

เช่น หากคุณขับรถในเมืองเป็นส่วนใหญ่ รถ SUV ขนาดเล็กหรือกะทัดรัดจะเหมาะที่สุด อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องขับรถพาครอบครัวออกต่างจังหวัดบ่อยๆ คุณอาจต้องพิจารณารถ SUV ขนาดกลางหรือขนาดใหญ่แทน ซึ่งรถ SUV บางรุ่นยังมาพร้อมกับตัวเลือก 7 ที่นั่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์หากคุณต้องการรองรับผู้โดยสารที่มากขึ้นบางโอกาส และรถ SUV 7 ที่นั่งดังกล่าวอาจเป็นทางเลือกแทนรถยนต์อเนกประสงค์ (MPV) ได้เป็นอย่างดี

ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่างรถ MPV 7 ที่นั่งและ SUV 7 ที่นั่งคือ MPV ได้รับการออกแบบตั้งแต่เริ่มแรกเพื่อรองรับผู้โดยสารจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ห้องโดยสารภายในโดยเฉพาะในที่นั่งแถวที่ 3 จึงมีแนวโน้มที่จะกว้างขวางและสะดวกสบายกว่าในรถ MPV เมื่อเทียบกับรถ SUV เพราะรถ SUV 7 ที่นั่งจำนวนมากมีพื้นที่จำกัดในที่นั่งแถวที่สาม และไม่แนะนำให้ผู้ใหญ่นั่งหากเดินทางไกล

2. พื้นที่ห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถ

รถ SUV ส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาให้เป็นรถยนต์ที่มีที่กว้างเพียงพอสำหรับรองรับผู้โดยสารอย่างน้อย 5 คน (รวมคนขับ) ในขณะที่มีพื้นที่เก็บสัมภาระเพียงพอ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรถ SUV มีหลายขนาด พื้นที่ห้องโดยสารภายในและพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถจึงอาจแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละรุ่น เช่น รถสปอร์ตเอสยูวีบางรุ่นที่มีแนวหลังคาที่ลาดเอียง อาจทำให้พื้นที่ศีรษะของผู้โดยสารด้านหลังลดลงเล็กน้อย หรือสำหรับ รถเอสยูวี 7 ที่นั่งอาจมีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเอสยูวี 5 ที่นั่ง

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องตรวจสอบว่าพื้นที่ภายในห้องโดยสารและท้ายรถเพียงพอตอบโจทย์ของคุณหรือไม่ และ อีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือการเข้าถึงห้องโดยสาร เนื่องจากรถ SUV มักจะสูงกว่ารถเก๋งทั่วไป จึงควรคำนึงก่อนตัดสินใจซื้อเรื่อความสะดวกในการบรรทุกของเข้าและออกจากห้องเก็บสัมภาระ รวมทั้งการก้าวเข้าและออกจากรถนั้น สะดวกสำหรับทุกคนในครอบครัวหรือไม่

3. ความสามารถในการขับขี่

เนื่องจากรถ SUV มักจะสูงกว่า หมายความว่าที่นั่งนั้นได้สูงกว่าเมื่อเทียบกับรถเก๋งทั่วไป สำหรับบางท่าน นี่อาจหมายถึงทัศนวิสัยที่ดีขึ้นและการขับขี่ที่ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม รถ SUV มีรูปทรงและขนาดที่หลากหลาย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทดลองขับเพื่อดูว่าเหมาะสำหรับคุณหรือไม่ เนื่องจากบางคนอาจพบว่ารถ SUV บางรุ่นใหญ่เกินไปที่จะใช้ขับเป็นรถประจำวัน

คุณอาจต้องพิจารณาว่ารถ SUV ของคุณมีระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) หรือขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทการขับขี่ของคุณ เช่น หากส่วนใหญ่ขับตามท้องถนนในเมือง FWD ก็เพียงพอ แต่ หากบางครั้งมีการออกไปเที่ยวในชนบทหรือขับรถออฟโรด คุณอาจต้องพิจารณารถ SUV ที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

ปัจจุบัน SUV จำนวนมากถูกจัดประเภทเป็นรถแบบครอสโอเวอร์หรือ CUV (รถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก) รถยนต์เหล่านี้ได้รับการออกแบบให้ดูเหมือนรถ SUV แต่มีลักษณะหลายอย่างเหมือนกับรถทั่วไป เช่น รถเก๋งหรือแฮทช์แบค แต่จะมีความสามารถทางออฟโรดที่จำกัดและถูกผลิตมาเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันในเมืองในฐานะเป็นรถครอบครัว

หรือ รถเอสยูวีแบบ 4×4 ซึ่งมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD โดยรถเหล่านี้คือรถ SUV ที่ออกแบบมาเพื่อลุยแบบออฟโรด และมักจะมาพร้อมกับล้อที่ใหญ่ขึ้น ระยะห่างจากพื้นที่สูงขึ้น และฮาร์ดแวร์ทางวิศวกรรม เช่น ตัวล็อกเฟืองท้าย เพื่อช่วยให้รับมือกับสภาพภูมิประเทศที่ขรุขระได้ดีกว่า

สิ่งหนึ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับรถ SUV โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจอดรถในแนวขนานคืออาจมองเห็นด้านหลังได้ยากขึ้นเนื่องจากความสูงมากกว่ารถซีดานหรือรถเก๋งทั่วไป แต่รถ SUV จำนวนมากในปัจจุบันมีกล้องถอยหลังเพื่อช่วยในการมองเห็น ในขณะที่บางรุ่นมีระบบช่วยจอดอัตโนมัติเพื่อช่วยในการจอดรถแบบขนานหากจำเป็น

4. ประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง

โดยทั่วไปแล้ว SUV จะมีขนาดใหญ่และหนักกว่าเมื่อเทียบกับรถเก๋งทั่วไป จึงอาจไม่ประหยัดเชื้อเพลิงเท่ากับรถเก๋งหรือแฮทช์แบคที่เทียบเท่ากัน การออกแบบของรถ SUV นั้นมีแอโรไดนามิกน้อยกว่าเมื่อเทียบกับรถประเภทที่เตี้ยและโฉบเฉี่ยวกว่า เช่น รถซีดาน

อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง เช่น ขนาดเครื่องยนต์ สไตล์การขีบ แรงม้า และน้ำหนักของรถ ซึ่ง รถ SUV มาพร้อมกับขนาดเครื่องยนต์ที่หลากหลาย ตั้งแต่หน่วยย่อย 1.0 ลิตรขนาดเล็กไปจนถึง V8 ขนาดใหญ่ 5.0 ลิตร และอื่นๆ อีกมากมาย และเช่นเดียวกับรถยนต์ทุกคัน ยิ่งเครื่องยนต์มีขนาดใหญ่เท่าใด ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น

ซึ่งทุกวันนี้ยังมีรถ SUV แบบไฮบริดและขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่สามารถให้ประสิทธิภาพที่โดดเด่นเหนือกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปทั่วไป (ICE) ดังนั้นจึงควรพิจารณาว่าประสิทธิภาพและการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้น เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณหรือไม่ เพราะรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้ายังมีการเบรกแบบสร้างพลังงานใหม่เพื่อนำพลังงานมาใช้ใหม่ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าเนื่องจากใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากกริด ตรงข้ามกับรถยนต์สันดาปที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลจากธรรมชาติ

โดยประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่แท้จริงนั้นแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละรุ่น แต่โดยทั่วไปแล้ว ตัวเลขการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ประมาณ 12 กม./ลิตร จะถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยสำหรับรถ SUV อย่างไรก็ตาม รถ SUV ที่ขับเคลื่อนด้วยไฮบริดบางรุ่นสามารถให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่า 15 กม./ลิตร ซึ่งดีกว่ารถซีดานที่ไม่ใช่ไฮบริดบางรุ่น ดังนั้น สุดท้ายแล้วก็ยังขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของระบบขับเคลื่อนที่คุณเลือกใช้

5. ไลฟ์สไตล์ของคุณ

หากคุณกำลังมองหารถเอสยูวีเพื่อใช้เป็นรถครอบครัว คุณควรดูว่ามีพื้นที่เก็บของทั่วทั้งห้องโดยสารเพียงพอสำหรับใส่สิ่งของชิ้นเล็กๆ เช่น อุปกรณ์หรือของเล่นสำหรับลูกๆหรือไม่ รถ SUV สำหรับครอบครัวบางรุ่นอาจมาพร้อมกับโต๊ะพับขนาดเล็กสำหรับเบาะหลัง หรือที่เสียบ USB หลายพอร์ตเพื่อชาร์จอุปกรณ์ ซึ่งรถเอสยูวีขนาดใหญ่และราคาแพงกว่าอาจมาพร้อมกับอุปกรณ์หรูหราอื่นๆ เช่น ระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลังที่สามารถเล่นดีวีดีหรือสตรีมวิดีโอได้

แต่ หากคุณต้องการใช้รถ SUV ของคุณเป็นพาหนะในการใช้ชีวิตที่ออกเดินทางไปทำกิจกรรมอยู่บ่อยๆ คุณอาจต้องคำนึงถึงคุณสมบัติต่างๆ เช่น แร็คหลังคา ช่วยให้บรรทุกสิ่งของต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น จักรยานหรือกระดานโต้คลื่น รวมถึงบันไดข้างประตูที่ช่วยให้วางของ-ยกของบนหลังคาได้ง่ายขึ้น

6. ความปลอดภัย

คุณลักษณะด้านความปลอดภัยเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญเมื่อซื้อรถยนต์ทุกคัน แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับรถ SUV ด้วยความสูงและขนาดที่ใหญ่กว่า การขับขี่รถ SUV จึงต้องได้รับการดูแลและเอาใจใส่มากขึ้น เนื่องจากรถอาจล้มคว่ำได้ง่ายกว่าเมื่อหลบหลีกกะทันหัน ตรวจสอบว่ารถ SUV มาพร้อมกับระบบควบคุมการทรงตัวเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถควบคุมรถได้ในสภาพการขับขี่ที่ยากลำบาก

เช่นเดียวกับยานพาหนะอื่นๆ ที่มีไว้สำหรับใช้ในครอบครัว สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่ามีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยเพื่อปกป้องครอบครัวของคุณ ฟีเจอร์หลักแบบแอคทีฟและแพสซีฟที่มีประโยชน์ ได้แก่ การเตือนการชนด้านหน้า การเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และการเตือนจุดบอด ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถช่วยเตือนคุณหรือแม้แต่ป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุได้ และเนื่องจากรถ SUV มักจะมีขนาดที่ใหญ่กว่า ควรคำนึงถึงจุดบอดของรถด้วย ควรทดลองขับและตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณสามารถมองเห็นรถคันอื่นบนท้องถนนได้อย่างชัดเจนจากที่นั่งคนขับ

7. ความสามารถในการลากจูง

รถ SUV ขนาดใหญ่บางรุ่นสามารถลากรถพ่วงได้ เนื่องจากขนาดและกำลังของรถ อย่างไรก็ตาม ควรรู้ไว้ก่อนว่าไม่ใช่ทุกรุ่นที่จะสามารถใช้ลากจูงได้ และรถ SUV ที่จะใช้สำหรับการลากจูงจำเป็นต้องได้รับการตั้งค่าการขับเคลื่อนเป็นพิเศษ พร้อมต้องมีพร้อมในการติดตั้งอุปกรณ์ลากจูงท้ายรถ รวมทั้งมีกำลังและแรงบิดมากพอที่จะดึงรถพ่วงที่มีน้ำหนักมากกว่าตัวรถได้

หากต้องการทราบจำนวนและน้ำหนักของรถพ่วงที่ลากจูงได้มากกว่ารถ SUV คุณจะต้องทราบพิกัดน้ำหนักรวมของรถ (GVWR) พิกัดน้ำหนักรวมของเพลา (GAWR) พิกัดน้ำหนักรวม (GCWR) และความสามารถในการลากจูง ซึ่งสามารถดูได้จากเว็บไซต์ของผู้ผลิตหรือในคู่มือสำหรับเจ้าของรถ หรือหากไม่มีตัวเลขดังกล่าว มักมีแนวโน้มว่าเป็นรถเอสยูวีรุ่นที่ไม่แนะนำให้ใช้เป็นยานพาหนะในการลากจูง

GVWR คือน้ำหนักสูงสุดที่ยานพาหนะสามารถรับน้ำหนักได้อย่างปลอดภัยเมื่อบรรทุกเต็มพิกัด ในขณะที่ GAWR คือน้ำหนักสูงสุดที่สามารถวางได้อย่างปลอดภัยบนเพลาเดียวของยานพาหนะ ในขณะเดียวกัน GCWR คือน้ำหนักสูงสุดที่อนุญาตสำหรับรถลากจูง ผู้โดยสารและสินค้าในรถพ่วง ที่สามารถลากจูงได้ ซึ่งรถ SUV ที่ออกแบบมาเพื่อลากจูงควรมีตัวควบคุมเบรกของรถพ่วง ซึ่งจะส่งสัญญาณสื่อสารระหว่างรถลากจูงและรถพ่วง และปรับแรงเบรกให้เหมาะสมเพื่อให้รถหยุดอย่างปลอดภัยขณะลากจูง

8. เกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์ธรรมดา

รถ SUV ส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในปัจจุบันมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ โดยรถ SUV เกียร์ธรรมดานั้นหาได้ยากมากในตลาดปัจจุบัน

สาเหตุหลักประการหนึ่งคือความสะดวกในการใช้งาน เนื่องจากรถ SUV ส่วนใหญ่ในปัจจุบันถูกซื้อเพื่อใช้งานในครอบครัวหรือในเมือง ระบบเกียร์อัตโนมัติจึงช่วยให้ขับขี่ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์หรือเหยียบคลัตช์ด้วยตนเอง อีกเหตุผลหนึ่งคือรถ SUV ที่มีเกียร์อัตโนมัตินั้นควบคุมได้ง่ายกว่าในสภาพถนนแบบออฟโรด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรวมกับซอฟต์แวร์อิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ที่สามารถช่วยปรับกำลังและการยึดเกาะของล้อโดยอัตโนมัติได้ตามต้องการ เว้นแต่นักขับที่มีประสบการณ์สูงและเชี่ยวชาญในเทคนิคออฟโรดเป็นอย่างดี การขับรถ SUV เกียร์ธรรมดาในสภาพสมบุกสมบันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้ดีและปลอดภัย เนื่องจากเราต้องคำนึงถึงวิธีการส่งกำลังไปยังล้ออย่างเหมาะสม ในเกียร์ที่เหมาะสม

ค้นหารถเอสยูวีจาก Bravoauto