เช็คลิสต์ วิธีดูรถมือสอง ก่อนซื้อ 

ที่ผ่านมาได้ให้คำแนะนำไปอย่างละเอียดทั้งในเรื่องของการทำการบ้าน เก็บข้อมูลของรุ่นรถที่เราสนใจความแตกต่างของออฟชั่นในแต่ละรุ่นปี รวมถึงการตรวจสอบเอกสารต่างๆ มาเรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้ถึงเวลาปฏิบัติที่ต้องไปดูตัวรถจริง ขั้นตอนในการดูตัวรถจริงต้องทำอย่างไรบ้างถึงจะได้รถที่มีคุณภาพ

  • อย่าให้ความอยากได้บังตา เรื่องนี้สำคัญมากเพราะรถรุ่นที่เราสนใจนั้นมีเป็นพันเป็นหมื่นคัน อย่าให้รถที่ขัดสีมาสวยๆ ฟอกภายในมาสะอาด เลขไมล์ที่ดูเหมือนน้อยแต่แท้จริงกรอไมล์มา อย่าให้สิ่งเหล่านี้ทำให้ไขว้เขวแล้วรีบซื้อเพราะรถที่สวยรูปอาจจะจูบไม่หอมก็เป็นได้
  • สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ตรวจสอบเอกสารสำคัญของตัวรถ ใบคู่มือจดทะเบียนฉบับจริง เอกสารของเจ้าของเดิม ลองเสิร์จในกูเกิ้ลดูชื่อนามสกุลของเจ้าของเดิม เสิร์จเลขทะเบียนรถ เผื่อจะเจอข้อมูลที่น่าสนใจซึ่งอาจจะช่วยให้ทราบประวัติรถคันนั้นๆ ได้
  • นำรถมาจอดบริเวณที่มีแสงสว่างมากๆ เริ่มตรวจเช็คจาก รายละเอียดของตัวรถเช่น ไฟหน้า / ไฟท้าย กระจังหน้า กันชนหน้า / หลัง ลวดลายล้อแม็ก สติ๊กเกอร์ ภายในห้องโดยสารไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ เครื่องเสียง ช่องแอร์ คอนโซลหน้า คอนโซลกลาง เบาะ ฯลฯ จากที่บอกไปในตอนที่ผ่านมาว่ารถแต่ละรุ่นปีจะมีรายละเอียดแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นรายละเอียดปลีกย่อยต้องตรงรุ่นตรงปี
  • เช็ค เลขเครื่องยนต์ เลขตัวถัง อันนี้สำคัญมาก เลขเครื่องยนต์จะต้องไม่มีร่องรอยตะไบ ตอกเลขซ้ำ หรือ ตัวเลขไม่ชัดเจน บริเวณที่ตอกเลขตัวถังนั้นพื้นที่โดยรอบจะต้องมีสีที่เรียบเนียนสม่ำเสมอกัน ไม่มีรอยตัดต่อ ตัวเลขต้องคมชัดไม่มีรอยซ้อนทับกัน ถ้าไม่แน่ใจให้มองข้ามไปทันที
  • กรณีรถปีเก่า แต่มีการเปลี่ยนชิ้นส่วนภายนอกเป็นรุ่นใหม่ เช่น รถปี 2018 แต่รายละเอียด เช่น ไฟหน้า / ไฟท้าย กระจังหน้า กันชนหน้า / หลัง  ลวดลายล้อแม็ก เป็นของปี 2020 แสดงว่ามีการดัดแปลงสภาพมาส่วนใหญ่มีสองเหตุผล คือ เปลี่ยนเพราะความชอบ กับ เกิดอุบัติเหตุมา ทางที่ดีควรเลี่ยงด้วยประการทั้งปวง
  • ถ้ารถตรงรุ่นตรงปี สิ่งที่ต้องดูลำดับต่อไปคือ “สภาพสีตัวรถ” ควรจอดกลางแดดหรือแสงธรรมชาติ ถอยไปดูไกลๆ ดูความสม่ำเสมอของสีความเรียบเนียนของตัวถัง ถ้าสีของตัวถังแต่ละชิ้นไม่เป็นสีเดียวกันมีเข้มมีอ่อนต่างกัน และตัวถังมีลอนคลื่นหรือไม่เรียบเนียนแสดงว่ามีการทำสีมาแล้ว ตามขอบประตู รางน้ำ กรอบกระจก สีจะต้องเรียบเนียนไม่มีลอนคลื่น สีตัวถังรถมีริ้วรอยจากการใช้งานรอยขูดขีดต่างๆ เป็นเรื่องปกติกระจกทุกบานต้องมีโลโก้ มอก. ถ้าเป็นชิ้นส่วนนำเข้าต้องมีสติ๊กเกอร์ มอก. ถ้าไม่มีอาจจะเป็นการทำโครงเก่าจากต่างประเทศมาสวมทะเบียนเดิม
  • ตรวจเช็คช่องไฟต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องว่างระหว่างไฟหน้า กระจัง ฝากระโปรงหน้า / หลัง ประตูทุกบาน กรอบหน้าต่าง กรอบกระจกหน้า / หลัง จะต้องมีช่องว่าเสมอกันห่างเท่าๆ กันทุกชิ้น ถ้าช่องไฟไม่เสมอกันตัวรถดูบิดเบี้ยวแสดงว่าเกิดอุบัติเหตุหนักมาแล้ว
  • เปิดฝากระโปรงหน้า / หลัง ตรวจเช็ครอยตะเข็บ รอยต่อชิ้นส่วนต่าง ความสม่ำเสมอของสีภายในห้องเครื่องและห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย ห้องเครื่องต้องมีความเรียบร้อยไม่สะอาดเหมือนรถป้ายแดงมีคราบสกปรกบ้างเป็นเรื่องปกติ ถ้าเป็นรถผลิตในประเทศต้องมีมีสติ๊กเกอร์หรือภาษาอื่นๆ เช่น ภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ ฯลฯ อาจเป็นได้ว่ามีการตัดเปลี่ยนหัวหรือเครื่องยนต์มาแล้ว 
  • ตรวจเช็คเข็มขัดนิรภัยทุกเส้นจะมี Tag จะมี วัน / เดือน / ปี ผลิตอยู่ ทุกเส้นจะต้องเป็นปีเดียวกันผลิตจากแหล่งเดียวกัน  รวมถึงชิ้นส่วนพวกไฟหน้า / ไฟท้าย หรือชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ จะมีสติ๊กเกอร์บ่งบอกสถานที่หรือล็อตที่ผลิตถ้าข้อมูลของชิ้นส่วนขัดแยงกันก็ควรมองข้ามไป 
  • ต่อมาดูภายในห้องโดยสาร จะต้องมีออฟชั่นและรายละเอียดตรงรุ่นตรงปีเหมือนการดูภายนอกตัวรถ เช่น หน้าจอกลาง เครื่องเสียง รูปแบบของพวงมาลัย ลายละเอียดของเบาะ หรือ ชิ้นส่วนต่างๆ ต้องตรงรุ่นตรงปี ไม่ใช่ภายนอกเป็นรุ่นรถปี 2020 แต่ภายในเป็นของรุ่นปี 2018 แบบนี้ควรเลี่ยงให้ไกล
  • เช็ครอยต่อชิ้นส่วนภายในห้องโดยสารต้องเรียบสนิท สีของชิ้นส่วนต้องเป็นโทนสีเดียวกัน ร่องรายการใช้งานรอยขูดขีดเป็นเรื่องปกติ
  • ถ้าทุกอย่างผ่านให้ไปถึงขั้นตอนการทดลองขับ อย่างแรกที่ต้องดูคือ เปิด   สวิชต์กุญแจไปที่ตำแหน่ง On ก่อน แล้วดูไฟโชว์ต่างๆ จะต้องขึ้นโชว์ครบ และ ดับไปเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ เช่น ไฟเตือนถุงลมนิรภัย, ABS, ระบบช่วยการทรงตัว, อุณหภูมิน้ำ, น้ำมันเครื่อง ฯลฯ ถ้าในออฟชั่นมีแล้วไม่ไม่ขึ้นโชว์แสดงว่าถูกปิดการแจ้งเตือนหรือระบบไม่ทำงาน
  • ถ้าทุกอย่างผ่าน สตาร์ทเครื่องยนต์ เครื่องจะต้องติดง่าย เดินเบาเรียบไม่มีเสียงชิ้นส่วนหรือเสียงดังผิดปกติ ลองเปิดแอร์ ลองหมุนพวงมาลัย ลองปรับกระจกมองข้างและการพับกระจก, กระจกข้าง, ระบบปรับอากาศ, ฮีทเตอร์, เครื่องเสียง, จะต้องทำงานสมบูรณ์ ลองเร่งเครื่องช้าๆ ไต่ความเร็วรอบขึ้นไปต้องไม่มีเสียงผิดปกติ
  • เมื่อทุกอย่างผ่านลองเข้าเกียร์เดินหน้าถอยหลังดู เกียร์จะต้องเปลี่ยนอย่างนุ่มนวลไม่มีแรงกระตุกกระชาก ลองเคลื่อนที่รถดูว่าไม่มีเสียงหรือมีอาการใดผิดปกติ ถ้าเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ต้องลองเข้าเกียร์ 2H, 4H และ 4L ดูว่าจะต้องทำงานปกติ ถ้ามีระบบอื่นๆ เช่นดริฟล็อคจะต้องทำงานได้ตามปกติ 
  • จากนั้นให้ลองขับจริง รถจะต้องมีการเร่งอย่างนุ่มนวล ไม่มีเสียงผิดปกติ ไม่มีอาการวูบวาบ ส่าย หรือ ปัดเป๋ ระบบเบรกต่างๆ ต้องทำงานตามปกติ น้ำหนักพวงมาลัยการเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาต้องเท่าๆ กัน เมื่อลองขับแล้วคิดว่าโอเคให้ลองดูการขับขี่จากภายนอก ให้คนขายขับบนถนนแล้วเรานั่งดูจากรถอีกคันรถจะต้องวิ่งตรงไม่เอียงหรือมีอาการเอาด้านข้างนำไป เพราะรถที่เวลาเราลองขับมันอาจจะรู้สึกตรงแต่พอดูภายนอกมันกลายเป็นว่ารถวิ่งแบบเอียงๆ แบบนี้แสดงว่ารถเสียศูนย์
  • ถ้าจะให้ดีควรจะต้องพาคนที่มีความรู้ความชำนาญไปช่วยดูอีกแรง แต่ก่อนที่จะไปถึงการดูและทดลองขับต้องตรวจสอบเอกสารต่างๆ ก่อนเสมอ ถ้าเอกสารดูแล้วไม่แน่ใจก็ควรมองข้ามไม่ต้องเสียเวลาไปถึงขั้นตอนการดูรถ 

การซื้อรถมือสองอย่าใจร้อนเพราะรถมีให้เลือกเยอะมากจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจในการซื้อรถมือสองคือควรซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้เป็นที่ยอมรับ เพราะจะเชื่อมั่นได้ว่าได้รถที่มีความถูกต้องในเรื่องของเอกสาร และคุณภาพของตัวรถ การซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้จะมีสัญญาและการรับประกันหลังการขายด้วย